|
วงศ์ |
Polygonaceae |
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Persicaria hydropiper (L.) Spach |
|
|
ชื่อไทย |
ผักไผ่น้ำ |
|
|
ชื่อท้องถิ่น |
- ผักไผ่น้ำ(คนเมือง) - ฝ่าย (มูเซอ – เชียงใหม่) พะจีมี (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ผักไผ่น้ำ (เหนือ) ผักไผ่น้ำยอดแดง ผักบุ้งท้องแดง ผักลิ้นไฟ (นราธิวาส) ตูบอสะรแว (มาเลย์ – นราธิวาส) [10] |
|
|
ลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ |
พืชล้มลุก สูงได้ถึง 80 ซม. ลำต้นค่อนข้างกลม ยาว มีข้อค่อนช้างโตและมีวงสีแดงใต้ข้อ มีรากงอออกจากตาบริเวณโคนต้นหรือข้อที่อยู่บริเวณโคนต้น แตกกิ่งก้านสาขาได้มาก
ใบ ใบเดี่ยวเรียงแบบเวียนสลับไปตามข้อ ก้านใบยาว 2-5 มม. บริเวณโคนก้านมีปลอกขนาดยาว 1.5 ซม. ห่อเป็นท่อหุ้มเห็นได้เด่นชัด แผ่นใบรูปใบหอก ขนาดกว้าง 0.5-2.0 ซม. ยาว 2-8 ซม. ปลายใบแหลมโคนใบสอบ แคบแบบรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ เนื้อใบมีต่อมกระจายทั่ว
ดอก ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ยาวได้ถึง 17 ซม. ที่ยอดหรือปลายกิ่ง มีใบประดับรูปกวย ดอกย่อยสมบูรณ์เพศ ก้านดอกย่อยยาวกว่าใบประดับ วงกลีบรวม 4-5 กลีบ สีขาวอมเขียวถึงสีชมพู เกสรเพศผู้ 5 อัน รังไข่นูนเหนือฐานวงกลีบรวม ก้านเกสรมีปลายเว้นลึกแยกเป็น 2 พู
ผล เป็นแบบแห้ง เมล็ดล่อน ยาว 2-3 มม. มี 2-3 มุม เมื่อสุกสีดำอมน้ำตาล [10] |
|
|
ใบ |
ใบ ใบเดี่ยวเรียงแบบเวียนสลับไปตามข้อ ก้านใบยาว 2-5 มม. บริเวณโคนก้านมีปลอกขนาดยาว 1.5 ซม. ห่อเป็นท่อหุ้มเห็นได้เด่นชัด แผ่นใบรูปใบหอก ขนาดกว้าง 0.5-2.0 ซม. ยาว 2-8 ซม. ปลายใบแหลมโคนใบสอบ แคบแบบรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ เนื้อใบมีต่อมกระจายทั่ว
|
|
|
ดอก |
ดอก ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ยาวได้ถึง 17 ซม. ที่ยอดหรือปลายกิ่ง มีใบประดับรูปกวย ดอกย่อยสมบูรณ์เพศ ก้านดอกย่อยยาวกว่าใบประดับ วงกลีบรวม 4-5 กลีบ สีขาวอมเขียวถึงสีชมพู เกสรเพศผู้ 5 อัน รังไข่นูนเหนือฐานวงกลีบรวม ก้านเกสรมีปลายเว้นลึกแยกเป็น 2 พู
|
|
|
ผล |
ผล เป็นแบบแห้ง เมล็ดล่อน ยาว 2-3 มม. มี 2-3 มุม เมื่อสุกสีดำอมน้ำตาล [10] |
|
|
สรรพคุณ / การใช้ประโยชน์ |
- ใบ ตำแล้วทาบริเวณผิวหนังที่เป็นกลากเกลื้อน(คนเมือง)
ใบและลำต้น ขยี้แล้วลนไฟ คั้นเอาน้ำมาทาผิวหนัง บริเวณที่ถลอกที่เกิดจากการเสียดสีกับเสื้อผ้า(คนเมือง)
- ชาวเขาแทบทุกเผ่าใช้ยอดอ่อนและใบอ่อนกินเป็นผักสด ผักจิ้ม ผักข้างเคียง หรือใส่แกงเป็นเครื่องเทศ มูเซอใช้ใบขยี้ผสมกับปูนกินหมาก ทาเป็นยาแก้ขี้กลาก เกลื้อนตามผิวหนัง [10] |
|
|
อ้างอิง |
เต็ม สมิตินันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ.
[10] สุธรรม อารีกุล, จำรัส อินทร, สุวรรณ ทาเขียวและอ่องเต็ง นันทแก้ว, 2551. องค์ความรู้เรื่องพืชป่าที่ใช้ประโยชน์ทางภาคเหนือของไทย เล่ม 2. มูลนิธิโครงการหลวง. อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนพับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), กรุงเทพฯ. 978 หน้า. |
|
|
สภาพนิเวศ |
ชอบขึ้นตามที่ชุ่มชื้นหรือบริเวณริมน้ำ |
|
|
เอกสารประกอบ |
|