|
|
|
|
พืชตามกลุ่มการใช้ประโยชน์
|
|
|
|
eherb ผลการค้นหา
Bamboo grass
|
Bamboo grass
Thysanolaena latifolia (Roxb. ex Hornem.) Honda (Syn. Thysanolaena maxima Kuntze) |
|
|
|
|
|
|
|
รายละเอียดทางพฤษศาสตร์ |
|
|
วงศ์ |
Poaceae |
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Thysanolaena latifolia (Roxb. ex Hornem.) Honda (Syn. Thysanolaena maxima Kuntze) |
|
|
ชื่อไทย |
ตองกง, ก๋ง |
|
|
ชื่อท้องถิ่น |
น่ำหยาว(เมี่ยน), ต้าวฉึเจ๋ (ม้ง), เค่ยแม(กะเหรี่ยงเชียงใหม่),ก๋ง(คนเมือง), มิ้วฮูเหมาะ(กะเหรี่ยงแดง), ลำก๋ง,ลำกร่อล(ลั้วะ), ตองกง(ไทใหญ่), เควยะหล่า(กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), ตาร์ล(ขมุ), บ่งบิ๊(ปะหล่อง) |
|
|
ลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ |
ไม้ล้มลุก จำพวกหญ้า อายุหลายปี สูงประมาณ 4 ม. ต้นกลม
ใบ ค่อนข้างกว้าง กว้าง 4 – 7 ซม. ยาว 30 – 55 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบป้าน ขอบใบจักละเอียด เนื้อใบค่อนข้างหนา กาบใบเกลี้ยง ยกเว้นตามขอบตอนบนมีขนสั้น กาบใบกลมตอนปลายเป็นก้านสั้น ๆ ซึ่งมีสีแดงเข้ม ลิ้นใบที่ระหว่างรอยต่อด้านในของกาบใบและแผ่นใบเป็นเยื่อบาง ๆ ยาวประมาณ 2 มม. ปลายตัด
ดอก ออกเป็นช่อกระจาย มีขนาดใหญ่ ปลายช่อโค้งลง ยาวประมาณ 50 ซม. ช่อดอกย่อย (spikelet) มีก้าน มักอยู่เป็นคู่ กาบช่อย่อย (glume) 2 อันคล้ายกัน รูปไข่ อันบนยาวและบางกว่าอันล่าง แต่ละช่อย่อยมีดอกย่อย 2 ดอก พบน้อยที่มี 3 ดอก ดอกล่างเป็นดอกไม่มีเพศ มีแต่กาบล่างและมีขนใกล้ ๆ ขอบ ดอกบนเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กาบล่าง (lemma) มีสันตามยาว 3 สัน ขอบทั้ง 2 ด้านบางใส และมีขนค่อนข้างแข็ง กาบบน (palea) มีเส้นสันตามยาว 2 เส้น เนื้อบางใส เกสรเพศผู้มี 2 อัน เกสรเพศเมียปลายแยกเป็น 2 แฉก เป็นขุย
ผล รูปไข่ ยาวประมาณ 0.6 มม. สีน้ำตาลแดง [7] |
|
|
ใบ |
ใบ ค่อนข้างกว้าง กว้าง 4 – 7 ซม. ยาว 30 – 55 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบป้าน ขอบใบจักละเอียด เนื้อใบค่อนข้างหนา กาบใบเกลี้ยง ยกเว้นตามขอบตอนบนมีขนสั้น กาบใบกลมตอนปลายเป็นก้านสั้น ๆ ซึ่งมีสีแดงเข้ม ลิ้นใบที่ระหว่างรอยต่อด้านในของกาบใบและแผ่นใบเป็นเยื่อบาง ๆ ยาวประมาณ 2 มม. ปลายตัด
|
|
|
ดอก |
ดอก ออกเป็นช่อกระจาย มีขนาดใหญ่ ปลายช่อโค้งลง ยาวประมาณ 50 ซม. ช่อดอกย่อย (spikelet) มีก้าน มักอยู่เป็นคู่ กาบช่อย่อย (glume) 2 อันคล้ายกัน รูปไข่ อันบนยาวและบางกว่าอันล่าง แต่ละช่อย่อยมีดอกย่อย 2 ดอก พบน้อยที่มี 3 ดอก ดอกล่างเป็นดอกไม่มีเพศ มีแต่กาบล่างและมีขนใกล้ ๆ ขอบ ดอกบนเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กาบล่าง (lemma) มีสันตามยาว 3 สัน ขอบทั้ง 2 ด้านบางใส และมีขนค่อนข้างแข็ง กาบบน (palea) มีเส้นสันตามยาว 2 เส้น เนื้อบางใส เกสรเพศผู้มี 2 อัน เกสรเพศเมียปลายแยกเป็น 2 แฉก เป็นขุย
|
|
|
ผล |
ผล รูปไข่ ยาวประมาณ 0.6 มม. สีน้ำตาลแดง [7] |
|
|
สรรพคุณ / การใช้ประโยชน์ |
- ใบ ใช้ห่อขนม ซึ่งมักจะทำในงานพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พิธี ผูกข้อมือ(กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน)
- ก้านช่อดอก ตากแห้งแล้วนำไปมัดกับด้ามไม้ไผ่ใช้ทำไม้กวาด(เมี่ยน)
ใบสด ใช้เป็นอาหารเลี้ยงวัว(ม้ง)
- ใบ ใช้ห่อขนม ซึ่งมักจะทำในงานพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พิธี ผูกข้อมือ(กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน)
- ใบ ใช้ห่อขนม(เมตอ)ข้าวเหนียวนึ่ง(กะเหรี่ยงเชียงใหม่)
ช่อดอก ตากแห้งแล้วถักยึดกับด้ามไม้ใช้เป็นไม้กวาด(ปะหล่อง,ลั้วะ,ไทใหญ่,คนเมือง,ม้ง,ขมุ)
ใบ ใช้ห่อข้าวต้ม ช่อดอกทำไม้กวาด(กะเหรี่ยงแดง)
- ราก น้ำต้มใช้อมกลั้วคอเมื่อมีไข้ ดอก ช่อดอกใช้ทำไม้กวาด [7] |
|
|
อ้างอิง |
"เต็ม สมิตินันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ.
[7] ก่องกานดา ชยามฤต, 2540. สมุนไพรไทยตอนที่ 6 . ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ."
|
|
|
สภาพนิเวศ |
- |
|
|
เอกสารประกอบ |
|
|
|
ภาพนิ่ง |
|
|
|
|
|
|
|
|