|   | 
                   | 
                    | 
                 
                
                  |   | 
                  
	พืชตามกลุ่มการใช้ประโยชน์ 
	
  | 
                    | 
                 
                | 
             
            | 
          
            
              
                eherb   ผลการค้นหา  
			             
			  
                      ���������������������, ���������������������
                  
			   | 
             
            
              
			  
  
    
        
          ก่อแป้น, ก่อหลวง  
            Castanopsis diversifolia (Kurz) King   | 
            | 
         
        | 
   
  
    |   | 
   
  
    |   | 
   
  
    |   | 
   
  
    | 
 | 
   
  
    |   | 
   
  
    | รายละเอียดทางพฤษศาสตร์ | 
   
  
  
    |   | 
   
  
    
      
        |   | 
        วงศ์ | 
        Fagaceae  | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        ชื่อวิทยาศาสตร์ | 
        Castanopsis diversifolia (Kurz) King  | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        ชื่อไทย | 
        ก่อแป้น, ก่อหลวง  | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        ชื่อท้องถิ่น | 
        สือเจ้งจั๊วะ (ม้ง), ก่อแป้น(คนเมือง), เส่ควอ(กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), ก่อหลวง, ก่อแป้น(ไทใหญ่)  | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        ลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ | 
        ลักษณะก่อที่พบในพื้นที่เป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ 8-15 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลแตกเป็นร่องลึก ใบเดี่ยวเรียวสลับกัน ปลายใบแหลม ดอกเป็นช่อ ผลติดเป็นช่อมีเปลือกหนามแหลมหุ้มผล เนื้อผลสีขาว สำหรับก่อแป้นเป็นไม้ยืนต้น กึ่งผลัดใบ สูงได้ถึง 20 เมตร เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา เปลือกชั้นในสีเหลืองอ่อน ใบเป็นใบเดี่ยวมีก้านใบยาว 1.2-2.0 เซนติเมตร แผ่นใบรูปไขรีแกมขอบขนาน ขนาดกว้าง 4-12 เซนติเมตร ยาว 8-24 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมหรือเป็นติ่งแหลม โคนใบมนสองข้างอาจจะเบี้ยวเล็กน้อย ขอบใบอาจเรียบตลอดหรือมีซี่หยักคล้ายฟันเลื่อยเฉพาะส่วนปลาย ใบแก่มีผิวด้านบนเกลี้ยงยกเว้นมีขนละเอียดตามเส้นกลางใบ มีด้านล่างมีขนละเอียดกระจายห่างๆ กันโดยเฉพาะตามเส้นใบด้านล่าง เส้นใบลึกลงจากผิวใบและเห็นได้ชัดเจน มีเส้นใบข้างจำนวน 10-14 คู่ ดอกออกเป็นช่อโดยทั่วไปคล้ายก่อหยุม ดอกย่อยติดกระจายหรือเป็นกระจุก กระจุกละ 2-3 ดอก วงกลีบรวม 6 กลีบ มีขนอยู่ตามขอบใบ ดอกเพศผู้มีเกสร 12 อัน รังไข่เป็นหมัน 1 อัน ดอกเพศเมียมีเกสรเพศผู้เป็นหมัน 12 อัน รังไข่ค่อนไปทางสามเหลี่ยม มีขนละเอียดปกคลุม ผลติดกับกิ่งไม่มีก้าน ค่อนข้างกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5-4.0 เซนติเมตร กาบผลมีหนามแหลมเหยียดตรงขนาดต่างๆกัน ยาวตั้งแต่ 8-12 มิลลิเมตร ปกคลุมหนาแน่นตลอด เมื่ออ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีน้ำตาลอมส้ม ผลด้านในเปลือกแข็งรูปไข่ ขนาด 0.6-1.3 เซนติเมตร มักจะมี 1 เม็ดต่อผล มีขนละเอียดปกคลุมเล็กน้อยบริเวณปลาย | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        ใบ | 
        - | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        ดอก | 
        - | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        ผล | 
        - | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        สรรพคุณ / การใช้ประโยชน์ | 
        "- ผล นำไปคั่ว รับประทานเนื้อข้างในได้(กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) 
  เมล็ด นำไปคั่ว รับประทานได้(คนเมือง,ม้ง,ไทใหญ่) 
- เนื้อไม้ ใช้ทำโครง สร้างส่วนต่างๆของบ้าน เช่น เสาบ้าน(คนเมือง,ม้ง,กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) 
- เมล็ด เก็บขาย(คนเมือง)" 
 | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        อ้างอิง | 
        เต็ม สมิตินันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ. 
 
สุธรรม อารีกุล. 2552. องค์ความรู้เรื่องพืชป่าที่ใช้ประโยชน์ทางภาคเหนือของไทย เล่ม 1.  มูลนิธิโครงการหลวง, เชียงใหม่. 372 น. 
 | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        สภาพนิเวศ | 
        ป่าดิบเขาสภาพอากาศเย็นที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 700-1,200 เมตร | 
       
      
        |   | 
         
      
        |   | 
        เอกสารประกอบ | 
        
                         | 
       
     
	
	 | 
   
  
    |   | 
   
  
    | ภาพนิ่ง | 
   
  
    |   | 
   
  
    | 
	
	
	
	 | 
   
  
    |   | 
   
  
     | 
   
  
    | 
 	
  
 | 
   
  
    |   | 
   
 
 | 
             
            |