|
|
|
|
พืชตามกลุ่มการใช้ประโยชน์
|
|
|
|
eherb ผลการค้นหา
มะไฟ, มะไฟป่า
|
มะไฟ, มะไฟป่า
Baccaurea ramiflora Lour. |
|
|
|
|
|
|
|
รายละเอียดทางพฤษศาสตร์ |
|
|
วงศ์ |
Phyllanthaceae (Euphorbiaceae) |
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Baccaurea ramiflora Lour. |
|
|
ชื่อไทย |
มะไฟ, มะไฟป่า |
|
|
ชื่อท้องถิ่น |
ตะปึ๊ดจือ(กะเหรี่ยง), มะไฟป่า(ไทลื้อ,คนเมือง), เบล่มเพี่ยว(ปะหล่อง), แผละชาร์ล(ลั้วะ), ไฮ่เพี่ยว(ปะหล่อง), มะจือซะ(กะเหรี่ยง), ซะมิโจ้เหมาะ(กะเหรี่ยงแดง), มะไฟ(คนเมือง,เมี่ยน), ตั่วเหลงกู่(ม้ง), เพียะชาล(ลั้วะ) |
|
|
ลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ |
ไม้ต้น ขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ, สูง 13 – 17 ม. ตามยอดและปลายกิ่งอ่อนมีขน
ใบ เดี่ยว เรียงสลับกัน รูปรีแกมรูปหอก รูปหอกกลับ หรือรูปไข่กลับ โคนใบแหลม ขอบใบเรียบหรือหยักตื้นๆ ไม่สม่ำเสมอ ปลายใบเรียวแหลม กว้าง 4.5 – 8 ซม. ยาว 10.5 – 22 ซม. เส้นแขนงใบมี 5 – 8 คู่, ด้านล่างนูน ไม่มีขนทั้งสองด้าน เนื้อใบค่อนข้างบาง ก้านใบยาว 1.5 – 6 ซม.
ดอก ออกเป็นช่อยาวๆ ตามง่ามใยและตามกิ่งที่ไร้ใบ สีเหลือง ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียส่วนมากอยู่ต่างต้นกัน ส่วนน้อยที่อยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกมีขน ดอกเพศผู้ ออกเป็นช่อยาว 5 – 7.5 ซม. ใบประดับรูปหอก กว้าง 2 – 3 มม. กลีบรองกลีบดอกมี 4 – 5 กลีบ, ขนาดไม่เท่ากัน เกสรผู้มี 4 – 8 อัน. ดอกเพศเมีย ออกเป็นช่อยาวมาก, มีใบประดับอยู่ที่โคนก้านดอก; กลีบรองกลีบดอกรูปขอบขนานแคบๆ ยาวประมาณ 1.2 ซม. รังไข่มีขน ไม่มีท่อรังไข่ ปลายเกสรแยกเป็น 2 – 3 อัน ภายในมี 3 ช่อง
ผล ค่อนข้างกลมหรือรี เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 มม. ผิวสีเหลือง ไม่มีขน มี 1 – 3 เมล็ด เนื้อหุ้มเมล็ดสีขาวขุ่น รสเปรี้ยวอมหวาน [6] |
|
|
ใบ |
ใบ เดี่ยว เรียงสลับกัน รูปรีแกมรูปหอก รูปหอกกลับ หรือรูปไข่กลับ โคนใบแหลม ขอบใบเรียบหรือหยักตื้นๆ ไม่สม่ำเสมอ ปลายใบเรียวแหลม กว้าง 4.5 – 8 ซม. ยาว 10.5 – 22 ซม. เส้นแขนงใบมี 5 – 8 คู่, ด้านล่างนูน ไม่มีขนทั้งสองด้าน เนื้อใบค่อนข้างบาง ก้านใบยาว 1.5 – 6 ซม.
|
|
|
ดอก |
ดอก ออกเป็นช่อยาวๆ ตามง่ามใยและตามกิ่งที่ไร้ใบ สีเหลือง ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียส่วนมากอยู่ต่างต้นกัน ส่วนน้อยที่อยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกมีขน ดอกเพศผู้ ออกเป็นช่อยาว 5 – 7.5 ซม. ใบประดับรูปหอก กว้าง 2 – 3 มม. กลีบรองกลีบดอกมี 4 – 5 กลีบ, ขนาดไม่เท่ากัน เกสรผู้มี 4 – 8 อัน. ดอกเพศเมีย ออกเป็นช่อยาวมาก, มีใบประดับอยู่ที่โคนก้านดอก; กลีบรองกลีบดอกรูปขอบขนานแคบๆ ยาวประมาณ 1.2 ซม. รังไข่มีขน ไม่มีท่อรังไข่ ปลายเกสรแยกเป็น 2 – 3 อัน ภายในมี 3 ช่อง
|
|
|
ผล |
ผล ค่อนข้างกลมหรือรี เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 มม. ผิวสีเหลือง ไม่มีขน มี 1 – 3 เมล็ด เนื้อหุ้มเมล็ดสีขาวขุ่น รสเปรี้ยวอมหวาน |
|
|
สรรพคุณ / การใช้ประโยชน์ |
- ผลสุก รับประทานได้ มีรสเปรี้ยว(กะเหรี่ยง,ไทลื้อ,ปะหล่อง,ลั้วะ,กะเหรี่ยงแดง,คนเมือง,ม้ง)
- ราก น้ำต้มราก, รวมกับสมุนไพรอื่น ๆ , ดื่มแก้ท้องร่วง หลังการคลอดบุตร ; เผาไฟกินเป็นยาถอนพิษ, ดับพิษร้อน, ทาแก้บวม, อักเสบ . ต้น เปลือกทำเป็นยาทาภายนอก, แก้โรคผิวหนังบางชนิด [6]
- รากใช้รากสด หรือรากแห้ง นำมาปรุงเป็นยาแก้พิษตานซาง แก้วัณโรค แก้ฝีภายใน ดับพิษร้อน พิษกำมะลอและเริม เป็นต้น
ผลใช้รับประทานเป็นผลไม้ [1] |
|
|
อ้างอิง |
เต็ม สมิตินันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ.
[1] วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม, 2548. พจนานุกรมสมุนไพรไทย. ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 6. รวมสาส์น (1977) จำกัด. กรุงเทพ ฯ.
[6] ลีนา ผู้พัฒนพงศ์, 2530. สมุนไพรไทยตอนที่ 5 . ฝ่ายพฤกษศาสตร์ป่าไม้ กองบำรุง กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ. |
|
|
สภาพนิเวศ |
ชอบขึ้นในป่าดิบแล้ง |
|
|
เอกสารประกอบ |
|
|
|
ภาพนิ่ง |
|
|
|
|
|
|
|
|