ค้นหาสมุนไพร  
     
   
   
   
     
 
   
eherb ผลการค้นหา กระโดน
กระโดน
Careya arborea Roxb. (Syn. Careya sphaerica Roxb.)
 
 
 
 
 
รายละเอียดทางพฤษศาสตร์
 
  วงศ์ Lecythidaceae
 
  ชื่อวิทยาศาสตร์ Careya arborea Roxb. (Syn. Careya sphaerica Roxb.)
 
  ชื่อไทย กระโดน
 
  ชื่อท้องถิ่น ละหมุด(ขมุ), ไม้ปุย,เก๊าปุย(คนเมือง)
 
  ลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ ต้น เป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 10 – 30 เมตร มีกิ่งก้านสาขามาก
ใบ : ใบจะออกเรียงสลับกันเป็นกระจุกบริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กลับ ขนาดของใบมีความกว้างประมาณ 6 นิ้ว ยาวประมาณ 12 นิ้ว ก้านใบยาวประมาณ 0.5 – 1 นิ้ว
ดอก ดอกออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งยาวประมาณ 3 – 8 นิ้ว ลักษณะของดอกมีกลีบดอกและกลีบรองกลีบดอกอย่างละ 4 กลีบ กลีบดอกมีสีขาว กลีบยาวประมาณ 1.5 นิ้ว กลีบรองกลีบดอกยาวประมาณ 1 นิ้ว โคนกลีบจะเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้เป็นเส้นฝอยสีแดง ยาวประมาณ 2 นิ้ว จะเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จำนวนมาก
ผล ผลมีลักษณะเป็นรูปกลม มีความกว้างประมาณ 2 นิ้ว ยาว 2.5 นิ้ว ภายในผลมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก[1]
 
  ใบ ใบ : ใบจะออกเรียงสลับกันเป็นกระจุกบริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กลับ ขนาดของใบมีความกว้างประมาณ 6 นิ้ว ยาวประมาณ 12 นิ้ว ก้านใบยาวประมาณ 0.5 – 1 นิ้ว
 
  ดอก ดอก ดอกออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งยาวประมาณ 3 – 8 นิ้ว ลักษณะของดอกมีกลีบดอกและกลีบรองกลีบดอกอย่างละ 4 กลีบ กลีบดอกมีสีขาว กลีบยาวประมาณ 1.5 นิ้ว กลีบรองกลีบดอกยาวประมาณ 1 นิ้ว โคนกลีบจะเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้เป็นเส้นฝอยสีแดง ยาวประมาณ 2 นิ้ว จะเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จำนวนมาก
 
  ผล ผล ผลมีลักษณะเป็นรูปกลม มีความกว้างประมาณ 2 นิ้ว ยาว 2.5 นิ้ว ภายในผลมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก
 
  สรรพคุณ / การใช้ประโยชน์ - ใบอ่อน นำไปต้มแล้วใช้ห่อเกลือกินแบบเมี่ยง(ขมุ)
ยอดอ่อน รับประทานสดกับน้ำพริก หรือตำมะม่วง(คนเมือง)
- เปลือกต้น ฟั่นเป็นเชือก(คนเมือง)
- เนื้อไม้ ใช้สร้างบ้านได้ดี มอดไม่กิน เพราเนื้อไม้มีรสฝาด(คนเมือง)
- เปลือกต้น ต้มรวมกับฝ้าย ใช้ย้อมผ้า ให้สีเหลืองอ่อน(คนเมือง)
- เปลือกต้น นำมาทุบใช้เป็นเบาะปูรองนั่งหลังช้าง หรือรองของไว้บนหลังช้าง(คนเมือง)
เปลือกต้น เอามาทำคบไฟ จุดไฟใช้ควันไล่แมลง ริ้น ไร หรือยุง(คนเมือง)
- เปลือกและผล ใช้เป็นยาฝาดสมาน ใบ มีสาร tannin 19% ซึ่งจะมีรสฝาด ใช้ปรุงเป็นน้ำมันสมานแผล หรือใช้ผสมกับเครื่องยาอื่น ๆ
ดอกและน้ำจากเปลือกผล ใช้ผสมกับน้ำผึ้งใช้ทานเป็นยาแก้หวัด แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ และเป็นยาบำรุงสำหรับสตรีหลังจากคลอดลูกแล้ว
ผล เป็นยาในการช่วยย่อยอาหาร
เมล็ด เป็นยาแก้พิษ
ราก เปลือก และใบ ใช้เป็นยาเบื่อปลา[1]
 
  อ้างอิง เต็ม สมิตินันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ.
[1] วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม, 2548. พจนานุกรมสมุนไพรไทย. ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 6. รวมสาส์น (1977) จำกัด. กรุงเทพ ฯ.
 
  สภาพนิเวศ -
 
  เอกสารประกอบ
 
ภาพนิ่ง